คืออุปกรณ์ดักจับฝุ่นละอองที่ใช้ถุงผ้าหรือสื่อกรองผ้าเป็นตัวดักจับอนุภาคขนาดเล็กภายในก๊าซอุตสาหกรรม ก่อนปล่อยก๊าซเข้าสู่บรรยากาศ
ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ตัวถังกรอง (housing), ถุงกรองผ้า (filter bags), ระบบพ่นลม หรือระบบสั่น เพื่อทำความสะอาดถุงกรอง และพัดลมดูดอากาศเข้าระบบ
การดูดก๊าซสกปรกเข้าห้องกรอง
พัดลมหรือโบลเวอร์จะดูดก๊าซที่มีอนุภาคฝุ่นเข้าไปในห้องดักฝุ่น
การกรองผ่านผิวถุงผ้า
ฝุ่นจะตกค้างบนผิวภายนอกของถุงกรอง ขณะที่อากาศสะอาดจะผ่านผ้าและไหลออกสู่ภายนอก
การทำความสะอาดถุงกรอง
ใช้วิธีพ่นลมย้อน (pulse-jet), ระบบสั่น (shaker) หรือการย้อนอากาศ (reverse-air) เพื่อปลดฝุ่นที่เกาะออกจากผิวถุงให้ตกลงสู่ถังเก็บฝุ่น
Pulse-Jet Baghouse
ใช้แรงดันลมพ่นย้อนผ่านถุงกรองเพื่อสลัดฝุ่น เหมาะกับการทำงานต่อเนื่องและฝุ่นละเอียดมาก
Shaker Baghouse
ใช้การสั่นถุงกรองให้ฝุ่นหลุด มีต้นทุนต่ำ แต่ต้องหยุดระบบเป็นช่วง ๆ เพื่อสั่นถุงกรอง
Reverse-Air Baghouse
เปลี่ยนทิศทางการไหลของอากาศให้กรองย้อนกลับ ทำความสะอาดอย่างนุ่มนวล เหมาะกับถุงกรองชนิดแรงดันต่ำและฝุ่นไม่หนามาก
โพลีเอสเตอร์ (Polyester)
ใช้กันทั่วไป มีราคาถูก ทนทานต่ออุณหภูมิได้ประมาณ 120–150 °C
Aramid (Nomex)
ทนอุณหภูมิสูง 150–180 °C เหมาะกับกระบวนการที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น
PTFE PTFE-membrane
เคลือบผ้าด้วยเมมเบรนโพลีเตตระฟลูออโรเอทิลีน เสริมประสิทธิภาพการกรองฝุ่นละเอียด ลดการอุดตันเร็ว
ประสิทธิภาพสูง กำจัดฝุ่นทั้งหยาบและละเอียดได้สูงถึง 99%
ความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนสื่อกรองและวิธีทำความสะอาดให้เหมาะสมกับชนิดฝุ่น
เก็บฝุ่นกลับมาใช้ได้ ฝุ่นที่เก็บได้บางชนิดสามารถนำกลับมาใช้กระบวนการผลิตได้
ต้นทุนสูง ลงทุนเบื้องต้นสูง ทั้งตัวถัง ถุงกรอง และระบบควบคุมการทำความสะอาด
การดูแลรักษา ต้องเปลี่ยนถุงกรองและตรวจเช็คระบบทำความสะอาดเป็นระยะ ใช้ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาค่อนข้างสูง
แรงต้านในการกรอง การอุดตันของถุงกรองทำให้แรงดันตกคร่อมสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบ
โรงไฟฟ้า ดักจับเถ้าลอย (fly ash) จากปล่องปล่อยก๊าซของหม้อไอน้ำถ่านหิน
อุตสาหกรรมซีเมนต์และโลหะ ลดการปล่อยฝุ่นขณะผลิตและบดแร่
โรงงานแปรรูปอาหารและยา ควบคุมฝุ่นแป้งและผงสารเคมีภายในโรงงาน อุตสาหกรรมไม้ ดักฝุ่นละเอียดจากการเจียรและตัดไม้
ลักษณะของฝุ่น ขนาด ความเป็นกรด/ด่าง ความชื้น
อุณหภูมิและสารเคมีในก๊าซ ซึ่งส่งผลต่อชนิดสื่อกรองที่ทนได้
ปริมาณก๊าซและอัตราการไหล เพื่อกำหนดขนาดเครื่องและจำนวนถุงกรอง
มาตรฐานการปล่อยก๊าซ ตามกฎหมายควบคุมมลพิษในแต่ละพื้นที่
งบประมาณทั้งติดตั้งและบำรุงรักษา
ตรวจสอบแรงดันตกคร่อม (ΔP) เพื่อประเมินการอุดตันของถุงกรอง
ตรวจสอบระบบทำความสะอาด ให้ปั๊มลมหรือระบบสั่นทำงานปกติ
เปลี่ยนถุงกรอง ตามรอบเวลาหรือเมื่อแรงดันตกคร่อมเกินเกณฑ์
ตรวจสอบการรั่วไหล ตรวจสอบการซีลและจุดเชื่อมต่อป้องกันฝุ่นรั่ว
สรุป
เครื่องกรองถุงผ้าเป็นระบบดักจับฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและยืดหยุ่น เหมาะกับงานอุตสาหกรรมหลายประเภท แม้ต้นทุนการติดตั้งและบำรุงรักษาจะสูง แต่สามารถลดมลพิษทางอากาศและนำฝุ่นบางชนิดกลับมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งคุ้มค่าในระยะยาวหากออกแบบและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม