สารกรองน้ำคาร์บอน (Activated Carbon)
คือวัสดุมีรูพรุนสูงที่ใช้สำหรับดักจับสารมลพิษในน้ำผ่านกระบวนการดูดซับ (adsorption) โดยสามารถลดกลิ่น สี รส และสารอินทรีย์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีรูปแบบของคาร์บอนหลายชนิด เช่น คาร์บอนผง (Powdered Activated Carbon, PAC) คาร์บอนเม็ด (Granular Activated Carbon, GAC) และคาร์บอนบล็อก (Carbon Block) ซึ่งแต่ละชนิดถูกเลือกใช้ตามลักษณะของสารปนเปื้อนและอัตราการไหลของน้ำที่ต้องการ
Activated Carbon เป็นคาร์บอนที่ผ่านการกระตุ้น (activation) เพื่อสร้างผิวภายในที่มีพื้นที่ผิวจำเพาะสูง (มากกว่า 500–3,000 m²/g) ช่วยให้สามารถดักจับสารปนเปื้อนได้ดี
ขนาดอนุภาค 1–150 µm
ใช้ในระบบบำบัดน้ำป้อน (in-line) หรือระบบเก็บตะกอนหลังเติมคาร์บอน
ขนาด 0.5–4 mm
นิยมใช้ในถังกรอง (filter vessels) สำหรับลดคลอรีน สารอินทรีย์ และกลิ่นรส
สื่อกรองอัดแน่น ช่วยกรองอนุภาคละเอียด (<1 µm)
เหมาะกับการกรองน้ำดื่มที่ต้องการคุณภาพสูง
พัฒนาสำหรับสลายคลอรามีน (chloramine) ในน้ำประปา
สามารถกำจัดไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) ที่ก่อให้เกิดกลิ่น “ไข่เน่า”
กระบวนการหลักคือการดูดซับ (adsorption) ซึ่งสารมลพิษจะถูกดึงดูดและยึดติดบนผิวภายในของคาร์บอน ด้วยความเป็นรูพรุนสูง ทำให้เกิดพื้นที่ผิวสัมผัสมากขึ้นสารมลพิษจึงสามารถติดกับคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พื้นที่ผิวจำเพาะ (Surface Area): ยิ่งสูง ยิ่งเพิ่มปริมาณการดูดซับ
การกระจายขนาดรูพรุน (Pore Size Distribution): เลือกให้เหมาะกับขนาดโมเลกุลของสิ่งปนเปื้อน
ค่าไอโอดีน (Iodine Number): วัดประสิทธิภาพการดูดซับสารโมเลกุลเล็ก (เช่น คลอรีน)
ค่ามอลาสส (Molasses Number) หรือค่าทานิน (Tannin Number): วัดการดูดซับสารโมเลกุลใหญ่หรือสารอินทรีย์หลายขนาด
ข้อดี:
ลดกลิ่น สี รส และสารอินทรีย์ได้ดี
ปรับติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ (PAC, GAC, Block)
ไม่มีการสร้างสารตกค้างหรือ by-products ที่เป็นอันตราย
ข้อจำกัด:
ไม่กำจัดเกลือแร่หรือโลหะหนักได้ดี (ยกเว้นใช้ร่วมกับสารเร่งปฏิกิริยา)
ต้องเปลี่ยนหรือเติมใหม่เมื่ออิ่มตัวแล้ว ไม่สามารถล้างกลับ (backwash) เพื่อใช้งานซ้ำได้อย่างเต็มที่
ระบบกรองน้ำดื่ม (Point-of-Use): กรองก่อนบริโภค เพื่อลดคลอรีนและสารอินทรีย์
ระบบบำบัดน้ำประปา (Municipal Water Treatment): กำจัดคลอรีน สารอินทรีย์ และ trihalomethanes (THMs)
อุตสาหกรรม: บำบัดน้ำเสีย ลดสาร VOCs และกลิ่นก่อนปล่อยทิ้งหรือใช้ใหม่
การเปลี่ยนหรือเติมคาร์บอน: ตามอัตราการไหลและปริมาณสารปนเปื้อนที่กรองได้ เช่น ทุก 6–12 เดือนในระบบบ้านพักอาศัยฃ
การต่ออายุด้วยความร้อน (Thermal Regeneration): ต้องใช้เตาเผาและกระบวนการควบคุมคุณภาพ จึงมักเลือกวิธีการเปลี่ยนคาร์บอนใหม่ในเชิงพาณิชย์ ฃ
การทดสอบประสิทธิภาพ: ใช้ทดสอบค่า iodine number, tannin number หลังการใช้งาน เพื่อประเมินประสิทธิภาพ
สารกรองน้ำคาร์บอนเป็นสื่อกรองที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสารอินทรีย์ คลอรีน กลิ่น รส และสารประกอบระเหยง่าย (VOCs) จากน้ำ โดยมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความต้องการและปริมาณการกรอง แม้จะไม่เหมาะกับการกำจัดเกลือแร่หรือสารอนินทรีย์บางชนิด แต่ด้วยคุณสมบัติการดูดซับที่ยอดเยี่ยมและง่ายต่อการติดตั้ง จึงเป็นหนึ่งในโซลูชันหลักของการกรองน้ำทั้งในระดับครัวเรือนและอุตสาหกรรม